Jewel อัญมณีที่สูญหาย
พวกเขาพบเจอและผูกพันกันด้วยสายใยแห่งชีวิต ณ ที่แห่งมิตรภาพ เมื่อความวิบัติปรากฏรุนแรงขึ้นพวกเขาจึงต้องผนึกกำลังและช่วงชิงอัญมณีกลับมาก่อนที่ทุกอาณาจักรจะล่มสลาย หากต้องสละ1ชีวิต จะเป็นชีวิตของใครเล่า
ผู้เข้าชมรวม
217
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทางเข้าโรงเรียนเวทเฮลอาเรียคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต่างต้องการเข้ามาจับจองใบสมัครเรียน
เพราะไม่ได้รับการคัดเลือกแต่อยากเข้ามาศึกษา ซึ่งทางโรงเรียนจะเปิดรับเป็นรอบพิเศษแต่ต้องได้รับการทดสอบที่แสนโหด
ทำให้แทบไม่มีผู้ที่ผ่านเข้ามาได้
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็มีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการสมัคร
นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกต่างทยอยกันข้ามาทางประตูฝั่งตะวันออก
เพราะถ้าเข้าทางประตูใหญ่คงจะเข้ามาไม่ทันการรายงานตัว
หนึ่งในนั้นก็มีเด็กหนุ่มผมสีดำสนิท
ร่างสูงกำลังนำข้าวของไปไว้ในที่ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียม
เพื่อนำไปส่งให้ที่ป้อมทันทีที่ได้รับการคัดเลือก
เขาเข้ามาลงชื่อแล้วเตรียมหาที่นั่งรอ แต่เมื่อหันไปเห็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักผมสีม่วงเป็นประกายสวยที่กำลังนั่งถือเอกสารขึ้นมาดูแล้วดูอีกจนน่าปวดหัว
จึงเดินเข้าไปหา
“มีอะไรให้ช่วยไหม”
“คือ
ฉันเรียงเอกสารไม่ค่อยถูกน่ะค่ะช่วยหน่อยได้ไหม”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาตอบพลางส่งสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
ดวงตาสีดำกลมโตเปล่งประกายขึ้นอย่างมีความหวัง
“ได้สิ
ส่งมาเดี๋ยวผมจะช่วย” เข้ายิ้มน้อยๆแล้วนั่งลงช่วย สักพักก็จัดทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วส่งคืนให้เจ้าของ
ที่นั่งดูด้วยความเขินอาย
“ขอบคุณมากเลยนะค่ะ
ถ้าให้ฉันทำเองไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่” เธอยิ้มกว้างแล้วกล่าวติดตลก
พลางรับเอกสารมาถือไว้ในมือ
“ไม่เป็นไรครับ”
เขาพูดจบแล้วหันหลังเดินออกมา
“เดี๋ยวค่ะฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
เธอตะโกนออกไปอย่างลืมตัว
เด็กหนุ่มหันมาเลิกคิ้วแล้วส่งรอยยิ้มทะเล้นเป็นเชิงล้อมาให้
“เผื่อคุณจะมีอะไรให้ฉันช่วยบ้างไงค่ะ”
คำแก้ตัวต่อมาทำให้ลูฟหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ใบหน้าเขินอายของเด็กสาวทำให้เขาขันกับท่าทางเก้ๆกังๆที่เธอแสดง
จริงอยู่ที่เขาหน้าตาดีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งจนเขาเริ่มชินเสียแล้ว
แต่เด็กสาวคนนี้กลับทำให้เขาขบขันและเอ็นดูไม่ใช่รำคาญเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ
“ผมชื่อลูเซียส
เรียกลูฟก็ได้ แล้วคุณล่ะ”
“เมลิน่าค่ะ
เมลินเรียกฉันว่าเมลินนะค่ะ”
น้ำเสียงตื่นๆและท่าทางเขินอายอดทำให้เขายิ้มกว้างขึ้นไม่ได้
“แล้วเจอกันนะครับ
เมลิน” เขาตอบ
“ค่ะ”
พูดจบเมลิน่าก็หันหลังเดินไปยังโต๊ะติดต่อเอกสารด้วยท่าทาแปลกๆ
จนเขาอดหัวเราะและส่ายหัวน้อยๆให้กับความเขินอายจนเกินเหตุของสาวเจ้าออกมาไม่ได้
วันนี้นักเรียนที่มานั่งรอการคัดเลือกมีเพียงชั้นปีที่หนึ่ง
เพียงปีเดียวเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่ทั้งหลายต่างก็ได้รับมอบหมายหน้าที่
ทั้งตรวจเอกสาร ดูแลรุ่นน้อง และประสานงานต่างๆ
พื้นที่ทั้งหมดจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ เสียงตะโกนโหวกเหวกดังไปทั่วบริเวณ
ทุกคนต่างวุ่นวายอยู่กับหน้าที่
แต่ยังมีเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่นั่งรอการคัดเลือกอยู่บนเก้าอี้ด้วยอาการสงบ
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่งามมองกวาดไปรอบๆอย่างคนช่างสังเกตแต่ไม่มีแววของความตื่นเต้นอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย
ตรงกันข้ามกลับมีแววไม่ชอบใจเล็กๆกับสถานที่ที่ไม่ค่อยมีร่มไม้ในรัศมีรอบปราสาทมีเพียงสนามหญ้ากว้างใหญ่แต่ต้นไม้นั้นต้องเดินออกไปอีกจนเกือบถึงเขตป่าจะมีประปรายบ้างตามหน้าป้อมต่างๆ
“เหมือนมาอยู่คนละโลกกับเวียโรน่าเลยเนอะ
ฮาฟ” ภูตประจำตัวของฮาร์โมนี่เอ่ยขึ้นผ่านจิตที่สื่อถึงกันโดยไม่ต้องคำพูด
ร่างเล็กนั่งอยู่บนไหล่มนที่ถูกปิดด้วยชุดประโปรงสีฟ้าอ่อนสะอาดตายาวแค่เข่า
แขนเสื้อตั้งแต่ไหล่ลงไปถึงข้อมือเป็นผ้าลูกไม้บางๆสีขาวสวย
ขับให้ผู้สวมใส่ดูสวยหวานราวเจ้าหญิงมากยิ่งขึ้น
“นั่นสิ หญิงอยากกลับบ้านจังเลย
ฟอตตี้”
ฮาร์โมนี่ตอบกลับทางเดียวกันเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเธอมีภูตประจำตัวมาด้วย
“ฮาฟ
อย่าดื้อนะเธอต้องออกมารู้จักโลกภายนอกบ้าง วันๆคุยอยู่แต่คนในวัง
สัตว์แล้วก็ภูตในป่า เธอต้องมีเพื่อนเป็นมนุษย์บ้างนะ”
“หญิงรู้แล้ว
ไม่ต้องย้ำหรอก ฟอตตี้พูดเหมือนเสด็จแม่เลยนะ รู้ตัวไหม”
“จะบอกว่าฉันขี้บ่นเหมือนแม่เธอใช่ไหมล่ะ
ไม่ต้องมาพูดอ้อมเลย”
“หญิงไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย
หญิงหมายถึงฟอตตี้ ดูแลเป็นห่วงหญิงเหมือนเสด็จแม่ต่างหาก” เด็กสาวรีบอ้อน
ตั้งแต่เล็กจนโตเธออยู่กับฟอตตี้มาตลอดจนเหมือนเป็นคนๆเดียวกัน
เธอรักและแคร์ฟอตตี้มากเช่นเดียวกับภูตตนน้อยที่ผูกพันกับเธอมาก
หากครั้งใดที่เธอทะเลาะกับฟอตตี้ แล้วทำให้ภูตน้อยโกรธ
นางก็มักจะหายตัวไปไม่ยอมออกมาคุยด้วย
จนเธอร้องไห้เสียหลายครั้งกว่านางจะยอมใจอ่อนออกมาพบ ดังนั้นเมื่อนางทำท่าไม่พอใจ
เธอก็มักจะอ้อนให้หายโกรธ
ภูตฟอตตี้เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอมักจะทำตัวกลับมาเป็นเด็กๆด้วยเสมอ
เพราะในสายตาของนางเธอก็เป็นเพียงเด็กตัวน้อยอยู่วันยังค่ำ
“ให้มันจริงเถอะ”
ฟอตตี้เอ่ยแล้วหันมาส่งค้อนให้เด็กสาวที่ยิ้มน่ารักกลับมาเป็นตอบแทนจนนางเองก็โกรธไม่ลง
ผลงานอื่นๆ ของ เอเซล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เอเซล
ความคิดเห็น